ภาษาคอมพิวเตอร์ หมายถึง
ภาษาใดๆที่ผู้ใช้งานใช้สื่อสารกับคอมพิวเตอร์หรือคอมพิวเตอร์ด้วยกัน
แล้วคอมพิวเตอร์สามารถทำงานตามคำสั่งนั้นได้ คำนี้มักใช้เรียกแทนภาษาโปรแกรม
แต่ความเป็นจริงภาษาโปรแกรมคือส่วนหนึ่งของภาษาคอมพิวเตอร์เท่านั้น
และมีภาษาอื่นๆที่เป็นภาษาคอมพิวเตอร์เช่นกันยกตัวอย่างเช่น HTML
เป็นทั้งภาษามาร์กอัปและภาษาคอมพิวเตอร์ด้วยแม้ว่ามันจะไม่ใช่ภาษาโปรแกรม
หรือภาษาเครื่องนั้นก็นับเป็นภาษาคอมพิวเตอร์
ซึ่งโดยทางเทคนิคสามารถใช้ในการเขียนโปรแกรมได้ แต่ก็ไม่จัดว่าเป็นภาษาโปรแกรม
ภาษาคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
- ภาษาระดับสูง ( high level)
- ภาษาระดับต่ำ ( low level)
ภาษาระดับสูงถูกออกถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานง่ายและสะดวกสบายกว่าภาษาระดับต่ำโปรแกรมที่เขียนถูกต้องตามเกณฑ์และไวยากรณ์ของภาษาจะถูกแปล
( Compile) ไปเป็นภาษาระดับต่ำเพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถนำไปใช้งานหรือปฏิบัติตามคำสั่งได้ต่อไป
ซอฟต์แวร์สมัยใหม่ส่วนมากเขียนด้วยภาษาระดับสูง แปลไปเป็นออบเจกต์โค้ด ( objet
code)แล้วเปลี่ยนเป็นชุดคำสั่งในภาษาเครื่อง
ภาษาคอมพิวเตอร์อาจแบ่งเป็นกลุ่มได้เป็นอีกสองประเภทคือ
ภาษาที่มนุษย์อ่านออก ( human-readable)
และภาษาที่มนุษย์อ่านไม่ออก ( non human-readable) ภาษาที่มนุษย์อ่านออกถูกออกแบบมาเพื่อให้มนุษย์สามารถเข้าใจและสื่อสารได้โดยตรงกับคอมพิวเตอร์
ส่วนภาษาที่มนุษย์อ่านไม่ออกจะมีโค้ดบางส่วนที่ไม่อาจอ่านเข้าใจได้
แต่ออกแบบมาเพื่อให้โค้ดกระชับซึ่งคอมคอมพิวเตอร์จะสามารถประมวลผลได้ง่ายกว่า
Java หรือ Java programming language
คือภาษาโปรแกรมเชิงวัตถุพัฒนาโดย เจมส์ กอสลิง และวิศวกรคนอื่นๆ
ที่บริษัท ซัน ไมโครซิสเต็มส์ ภาษานี้มีจุดประสงค์เพื่อใช้แทนภาษาซีพลัพลัส C++ โดยรูปแบบที่เพิ่มเติมขึ้นคล้ายกับภาษาอ็อบเจกต์ทีฟซี ( Objective-C) แต่เดิมภาษานี้เรียกว่า ภาษาโอ๊ก ( Oak)
ซึ่งตั้งชื่อตามต้นโอ๊กใกล้ที่ทำงานของ เจมส์ กอสลิง
แล้วภายหลังจึงเปลี่ยนไปใช้ชื่อ "จาวา" ซึ่งเป็นชื่อกาแฟแทน
จุดเด่นของภาษา Java อยู่ที่ผู้เขียนโปรแกรมสามารถใช้หลักการของ Object-Oriented Programming มาพัฒนาโปรแกรมของตนด้วย Java
ได้
ภาษา Java เป็นภาษาสำหรับเขียนโปรแกรมที่สนับสนุนการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ ( OOP
: Object-Oriented Programming) โปรแกรมที่เขียนขึ้นถูกสร้างภายในคลาส
ดังนั้นคลาสคือที่เก็บเมทอด ( Method) หรือพฤติกรรม ( Behavior)
ซึ่งมีสถานะ ( State) และรูปพรรณ ( Identity)
ประจำพฤติกรรม ( Behavior)
รูปแบบของภาษา Java
ภาษา Java เป็นภาษาที่ไม่กำหนดแบบการเขียนโปรแกรมในแต่ละบรรทัด แต่ละบรรทัดสามารถเขียนคำสั่งได้หลายคำสั่งสามารถแทรกคำอธิบาย ( comment) Java เป็นภาษาที่บังคับอักขระตัวพิมพ์ใหญ่ ตัวพิมพ์เล็ก ( Case Sensitiv) Java มีตัวดำเนินการ( operators) หลายชนิด ให้ใช้งานนอกจากคำสั่งนั้นเป็นคำสั่งที่ผู้ใช้สร้างขึ้นมาใหม่ อาจกำหนดเป็นตัวพิมพ์ใหญ่หรือตัวเล็กก็ได้ และสามารถเขียนชุดคำสั่งที่ประกอบด้วยตัวดำเนินการหลายตัวที่ต่างชนิดกันในชุดคำสั่งหนึ่งๆได้ โดยภาษา Java จะจัดลำดับการประมวลผลตามลำดับการทำงานของตัวดำเนินการรูปแบบคำสั่ง( statements) Java คือ ส่วนประมวลผล( Execute) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาทุกคำสั่งจะต้องจบด้วยเครื่องหมาย เซมิโคลอน( ; )
ข้อดีของ ภาษา Java
- ภาษา Java
เป็นภาษาที่สนับสนุนการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุแบบสมบูรณ์
ซึ่งเหมาะสำหรับพัฒนาระบบที่มีความซับซ้อน
การพัฒนาโปรแกรมแบบวัตถุจะช่วยให้เราสามารถใช้คำหรือชื่อ ต่าง ๆ
ที่มีอยู่ในระบบงานนั้นมาใช้ในการออกแบบโปรแกรมได้ ทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
- โปรแกรมที่เขียนขึ้นโดยใช้ภาษา Java จะมีความสามารถทำงานได้ในระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน
ไม่จําเป็นต้องดัดแปลงแก้ไขโปรแกรม เช่น หากเขียนโปรแกรมบนเครื่อง Sun โปรแกรมนั้นก็สามารถถูก compile และ run บนเครื่องพีซีธรรมดาได้
-ภาษาจาวามีการตรวจสอบข้อผิดพลาดทั้งตอน compile
time และ runtime ทำให้ลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในโปรแกรม
และช่วยให้ debug โปรแกรมได้ง่าย
- ภาษาจาวามีความซับซ้อนน้อยกว่าภาษา C++
เมื่อเปรียบเทียบ code ของโปรแกรมที่เขียนขึ้นโดยภาษา
Java กับ C++ พบว่า
โปรแกรมที่เขียนโดยภาษา Java จะมีจํานวน code น้อยกว่าโปรแกรมที่เขียนโดยภาษา C++ ทำให้ใช้งานได้ง่ายกว่าและลดความผิดพลาดได้มากขึ้น
- ภาษาจาวาถูกออกแบบมาให้มีความปลอดภัยสูงตั้งแต่แรก
ทำให้โปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วยจาวามีความปลอดภัยมากกว่าโปรแกรมที่เขียนขึ้น
ด้วยภาษาอื่น เพราะ Java มี security ทั้ง
low level และ high level ได้แก่ electronic
signature, public andprivate key management, access control และ certificatesของ
-มี IDE, application server, และ library ต่าง ๆ
มากมายสำหรับจาวาที่เราสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ทำให้เราสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปกับการซื้อ tool และ
s/w ต่าง ๆ
ข้อเสียของ ภาษา
Java
-ทำงานได้ช้ากว่า native
code (โปรแกรมที่ compile ให้อยู่ในรูปของภาษาเครื่อง)
หรือโปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วยภาษาอื่น อย่างเช่น C หรือ C++
ทั้งนี้ก็เพราะว่าโปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วยภาษาจาวาจะถูกแปลงเป็นภาษากลาง
ก่อน แล้วเมื่อโปรแกรมทำงานคำสั่งของภาษากลางนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นภาษาเครื่องอีก
ทีหนึ่ง ทีล่ะคำสั่ง (หรือกลุ่มของคำสั่ง) ณ runtime ทำให้ทำงานช้ากว่า
native code ซึ่งอยู่ในรูปของภาษาเครื่องแล้วตั้งแต่ compile
โปรแกรมที่ต้องการความเร็วในการทำงานจึงไม่นิยมเขียนด้วยจาวา
-tool ที่มีในการใช้พัฒนาโปรแกรมจาวามักไม่ค่อยเก่ง
ทำให้หลายอย่างโปรแกรมเมอร์จะต้องเป็นคนทำเอง ทำให้ต้องเสียเวลาทำงานในส่วนที่ tool
ทำไม่ได้ ถ้าเราดู tool ของ MS จะใช้งานได้ง่ายกว่า และพัฒนาได้เร็วกว่า (แต่เราต้องซื้อ tool ของ MS และก็ต้องรันบน platform ของ MS)
คุณลักษณะเด่นของภาษา Java
– ภาษา Java เป็นภาษาที่สนับสนุนการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุแบบสมบูรณ์
– โปรแกรมที่เขียนขึ้นโดยใช้ภาษา Java จะมีความสามารถทำงานได้ในระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน
ไม่จําเป็นต้องดัดแปลงแก้ไขโปรแกรม เช่น หากเขียนโปรแกรมบนเครื่อง Sun โปรแกรมนั้นก็สามารถถูก compile และ run บนเครื่องพีซีธรรมดาได้
– เมื่อเปรียบเทียบ code ของโปรแกรมที่เขียนขึ้นโดยภาษา
Java กับ C++ พบว่า
โปรแกรมที่เขียนโดยภาษา Java จะมีจํานวน code น้อยกว่าโปรแกรมที่เขียนโดยภาษา C++ ถึง 4 เท่า และใช้เวลาในการเขียนโปรแกรม น้อยกว่าประมาณ 2 เท่า
– Java มี security ทั้ง low
level และ high level ได้แก่ electronic
signature, public andprivate key management, access control และ certificatesของภาษาจาวา
จุดเด่นของภาษาจาวา
– ความง่าย ( simple)
– ภาษาเชิงออปเจ็ค ( object oriented)
– การกระจาย ( distributed)
– การป้อ้องกันการผิดพลาด ( robust)
– ความปลอดภัย ( secure)
– สถาปัตัตยกรรมกลาง ( architecture neutral)
– เคลื่อนย้ายง่าย ( portable)
– อินเตอร์พ์พรีต ( interpreted)
– ประสิทธิภาพสูง ( high performance)
– มัลติเธรด ( multithreaded)
– พลวัต ( dynamic)
VIDEO
VIDEO